THE SINGHA STORY
ตอน ปั้นนักปรุงเบียร์ ประจำตระกูล
นายประจวบเดินทางกลับเยอรมนีในปี ๒๔๗๗ เพื่อเข้าเรียนหลักสูตรนักปรุงเบียร์ที่สถาบันเดอเมนส์ในมิวนิกสถาบันแห่งนี้ก่อตั้งโดย ดร.อัลเบิร์ต เดอเมนส์ เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๓๘ และได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงเรียนฝึกนักปรุงเบียร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หลังจบการศึกษาจากสถาบันเดอเมนส์ นายประจวบเข้าทำงานเป็นพนักงานฝึกหัดที่โรงเบียร์ฮัคเกอร์ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นฮัคเกอร์-ชอร์) ในมิวนิก ฐานะบุตรขุนนางผู้มั่งคั่งของนายประจวบไม่มีความหมายอะไรเลยต่อผู้ที่ฝึกสอนเขา
บรูว์มาสเตอร์ อัลฟอนส์ เกิ๊ตซ์ (กลาง) พร้อมด้วยนายวิทย์ และนายประจวบ ภิรมย์ภักดี
ชายหนุ่มต้องขยันทำงานไม่ต่างจากพนักงานฝึกหัดคนอื่น จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าทำงานในห้องปฏิบัติการทำเบียร์ เขาต้องตื่นก่อนฟ้าสางไปจุดเทียน ขัดถังเบียร์ กวาดพื้นโรงเบียร์ เติมถ่านหินหม้อไอน้ำ แถมยังต้องแบกกระสอบมอลต์ที่หนักอึ้งและเปลี่ยนไส้กรองเหล็กที่ใช้ในการหมักเบียร์ “แม้งานจะหนักมากแต่ผมก็ต้องทน” นายประจวบเขียนเล่าหลังพ้นสภาพพนักงานฝึกหัดแล้วหลายปี “ผมสัญญากับพ่อว่าจะเรียนจนจบ” นายประจวบได้มรดกความตั้งใจจริงมาจากบิดาและยังสนใจเทคโนโลยีเหมือนกัน เขาจึงทุ่มเทกายใจเต็มที่ให้กับการศึกษาศาสตร์และศิลป์แห่งการทำเบียร์จนเชี่ยวชาญ
ประกาศนียบัตรจากสถาบันเดอเมนส์ ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี มอบให้ นายประจวบ ภิรมย์ภักดี
ปี ๒๔๗๙ นายประจวบกลับมาเยี่ยมบ้านอีกครั้งในช่วงวันหยุด และยังดำเนินกิจวัตรเหมือนเมื่ออยู่เยอรมนี ทุกๆ วันเขาจะตื่นตั้งแต่ตี ๔ เพื่อไปทำงานในห้องไอน้ำของโรงเบียร์และสอนพนักงานไทยให้รู้วิธีดำเนินงานของโรงเบียร์เยอรมัน ระหว่างที่อยู่มิวนิกนายประจวบได้ฝึกทักษะป็นเวลาหลายเดือนที่สถานีวิทยาศาสตร์เพื่อการผลิตเบียร์ (Wissenschaftliche Station für Brauerei) ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งมิวนิก (Technical University of Munich) และเมื่อสิ้นสุดการฝึกงานเขาก็ได้รับตำแหน่งนักปรุงเบียร์หรือบรูว์มาสเตอร์อย่างเป็นทางการ นับเป็นนักปรุงเบียร์คนแรกในประวัติศาสตร์สยาม ปีเดียวกันนั้นนายประจวบเดินทางกลับบ้านพร้อมกับบรูว์มาสเตอร์ชาวเยอรมันชื่ออัลฟอนส์ เกิ๊ตซ์ ผู้มาแทนฟรานซ์ พุลต์ซ ที่ตัดสินใจกลับไปอยู่เยอรมนีหลังหมดสัญญา เท่ากับบุญรอดบริวเวอรี่มีบรูว์มาสเตอร์ถึง ๒ คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นคนในครอบครัว
บรรยากาศการทำงานในโรงเบียร์ช่วงทศวรรษที่ ๑๙๓๐
นายประจวบเอาจริงเอาจังถึงขั้นหมกมุ่นกับการรักษาและปรับปรุงรสชาติและคุณภาพเบียร์ เขามักขับรถเอ็มจีเปิดประทุนคู่ใจไปทั่วเมืองเพื่อเยี่ยมร้านอาหาร ร้านขายของชำ และร้านค้าอื่นๆ ที่จำหน่ายเบียร์ของบุญรอดบริวเวอรี่ ไม่ว่าจะแวะที่ไหนเขาจะซื้อเบียร์ ๑ ขวดมาเปิดชิมแล้วก็กลับ ถ้าพูดภาษาสมัยนี้ก็ต้องบอกว่าเขาไปตรวจสอบคุณภาพสินค้าโดยไม่บอกล่วงหน้าเพื่อความมั่นใจว่าเบียร์ของบริษัทไม่ถูกปลอมปนหรือปลอมแปลง และคงความเสมอต้นเสมอปลายทั้งในแง่ความสดและรสชาติ