Singha Estate จังหวะการก้าวสู่อนาคต

0

SINGHA ESTATE

Download Button

ตั้งแต่ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 ก็มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวไม่ขาดสาย ทั้งการจับมือร่วมกิจการกับบริษัทพร็อพเพอร์ตี้อื่นๆ การซื้อตึกสำนักงานให้เช่า ซื้อโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ ความคืบหน้าบิ๊กโปรเจคท์ที่เป็นรูปร่างแล้วอย่าง ดิ เอส อโศก และ สิงห์ คอมเพล็กซ์เมื่อเทียบระยะเวลาที่ก่อตั้งกับการเดินหน้าที่เห็นอยู่นี้ ต้องบอกว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วทีเดียว หลายคนอาจจะเริ่มตามไม่ทัน แต่ก็อยากที่จะทำความเข้าใจในบทบาทแนวทางของ สิงห์ เอสเตท ให้มากขึ้น ฐานที่เป็นหนึ่งใน non-core business ของกลุ่มบุญรอดฯ ที่ทำธุรกิจนอกเหนือธุรกิจสายหลักของบริษัทและเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก

สิงห์ แมกกาซีน ได้รับเกียรติจาก คุณชญานิน เทพาคำ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกกรุยทางสร้าง สิงห์ เอสเตท คุณชญานินยินดีที่จะอธิบายภาพทุกอย่างให้กระจ่าง เล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นให้ฟัง พร้อมทั้งแนะนำคุณนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คุณล่องลม บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หัวใจสำคัญอีก 2 ท่านที่จะพา สิงห์ เอสเตท สู่ทิศทางที่วางไว้ในอนาคต

ก่อนเป็นพร็อพเพอร์ตี้
จากที่บริษัท บุญรอดฯ ได้พึ่งกับรายได้จากสินค้าประเภทเดียวมาตลอด ซึ่งมีความเสี่ยงสูงหากตลาดนั้นเกิดการแปรปรวนอย่างที่ได้พบกับผลกระทบสูงสุด จากหลากหลายสาเหตุในระหว่างปี พ.ศ. 2540-2546 คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งและได้มองหาธุรกิจอื่นที่จะมาช่วยสร้างความสมดุลด้านรายได้สำหรับกลุ่มบุญรอดฯ และกระจายความเสี่ยงจากผลกระทบจากภายนอกให้น้อยลง

ช่วงต้นปี 2550 คุณสันติจึงมีนโยบายให้แสวงหา non-core business เพื่อช่วยขยายการเติบโตของกลุ่มบุญรอดฯ ตั้งเป้าเพิ่มรายรับจากธุรกิจสายนี้ให้ถึง 30% จากรายรับรวมทั้งหมดของกลุ่มบุญรอดฯ พร้อมขยายรายรับในธุรกิจหลักควบคู่ไปด้วย คุณชญานิน เทพาคำ ผู้รับสนองนโยบายด้านธุรกิจ non-core ทำการบ้านอย่างหนักเพื่อหาช่องทางทำธุรกิจใหม่ เริ่มจากสร้างพอร์ตโฟลิโอเพื่อบาลานซ์รายได้ระหว่างการลงทุนแบบ Low risk – Low return และการลงทุนแบบ High risk – High return

อ่านต่อได้ใน
[Singha Magazine: ฉบับที่ 1/2016 เมษายน 2559]

Share.