ไม่มีเวรหรอหมอ

0

“Work-life balance  พี่ดีจังแหะ” คำที่ใครหลายคนชอบทักถามเข้ามาใน Inbox

เอ๊ะะะะะะะ !!! ทุกครั้งที่ได้ยินคำนี้ก็แบบ เอ๊ะ กับตัวเองว่าใช่มั้ยนะ ก็คงใช่แหละ เรา Work-life Balance ดีพอตัว แต่ในใจผมมันคือ Work hard, Play hard  ไม่แน่ใจว่ามันสื่อไปทางเดียวกันไหม การบาลานซ์ของบางคนอาจเป็นการทำงานไม่หนักจนเกินไปเพื่อมาพักผ่อนก็ได้นะ แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่ การทำงานหนักและการเที่ยวหนัก นั้นคือการ Balance ของผม

ผมไม่รู้มันเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหนที่ผมรู้สึกว่าการอยู่ห้องเฉยๆ ของผมมันไม่มีความสุขไปซะแล้ว อยู่ดีๆ ก็ชอบการได้ออกไปข้างนอก ได้ไปเจอเพื่อนฝูง ได้ไปเที่ยวไปเจอคนแปลกหน้าใหม่ๆ พูดแบบนี้ชาวอินโทรเวิร์ต (Introvert) อาจจะเริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แนว แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นของการขยันทำงานและหาเงินไปเที่ยว

ผมชื่อปองนะครับ ตอนนี้เป็นทันตแพทย์ งานอดิเรกคือ “เที่ยว” ใช่ครับอ่านไม่ผิด ผมชอบเที่ยว และเที่ยวทุกแนว จนเปิดเพจท่องเที่ยวเป็นของตัวเอง เริ่มต้นตอนแรกผมก็เป็นเหมือนทุกคนแหละครับ เจอข้อมูลที่เที่ยวไหนน่าสนใจ สวยงามอลังการ ก็จะแชร์เก็บไว้ แท็กเพื่อนแท็กฝูงไปบ้างก็มี ถามว่าได้ไปตอนไหนก็ไม่รู้หรอก แต่อยากไปก็แล้วกันหวนให้นึกถึงคอนเทนต์ที่เคยแชร์เล่นๆ ไว้กับเพื่อนว่า “ซักวันต้องไปให้ได้นะปอง”

ชีวิตเริ่มเที่ยวก็คงเริ่มจากมหาวิทยาลัยเนี้ยละ กว่าจะได้เที่ยวแต่ละทีก็คือเหนื่อยมากพ่อ! คำอุทานนี้ไม่เกินจริง ปิดทงปิดเทอมก็ไม่ค่อยจะมีกับเค้าเพราะการเรียนหมอฟัน พอปิดเทอมซักทีก็ดันไม่มีเงินอีก ท้ออออ ถ้าให้ลองนึกภาพตามตอนที่กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแล้วไม่มีเงินสิ (นิสัยอย่างฉันจะไปเก็บเงินยังไงก่อนใครเก็บได้ผมก็นับถือนะ นับถือจริง ๆส่วนตัวผมเองก็หมดทุกวันศุกร์เย็นทั้งนั้น) ที่พึ่งสุดท้ายก็คือแบมือขอพ่อแม่ แต่ด้วยความที่ครอบครัวก็ไม่ได้อินการเที่ยวขนาดนั้น เลยแทบจะต้องคลานเข่าเข้าไปขอเลยนะ อย่าเรียกว่าชักแม่น้ำทั้งห้าเลย ผมนี่ชักมหาสมุทรแทบจะทั้งโลกมาโน้มน้าว และนั่นก็คงเป็นจุดเริ่มต้นเป้าหมายของผม คือ เรียนจบทำงาน จะต้องมีเงิน เอาไปทำไร เที่ยวน่ะสิ !

ทำไมถึงชอบการเที่ยว? 

อย่างที่บอกไป การเที่ยวมันมีเสน่ห์ไง ไปในที่ที่ไม่รู้จักใครและใครก็ไม่รู้จักเรา อีกอย่างก็คือผมชอบถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นคนถ่ายและคนถูกถ่าย เริ่มแรกก็เริ่มเที่ยวแบบสบายๆ ไปตามถ่ายรูปจุดแลนด์มาร์คต่างๆ ซักพักเริ่มไปเดินขึ้นเขาดำน้ำ เล่นกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม ปีนเขา สโนว์บอร์ด เวคบอร์ด และคิดจะลองทำสิ่งใหม่ไม่หยุด เอาจริงแล้วสำหรับผม ผมว่าผมบรรลุเป้าหมายในการเที่ยวนะ มันเป็นการชาร์จพลังให้กับชีวิตในอีกรูปแบบของผมเลย จากชีวิตที่เคยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ที่กิจวัตรประจำวันวนลูปไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผมมีความสุขที่ได้เห็นวิวสวยๆ หลังการได้เดินขึ้นเขามาอย่างหนักและเหนื่อย ผมมีความสุขที่ได้อยู่ใต้น้ำ ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและมองปลาว่ายผ่านไปเพลินๆ และผมมีความสุขที่ได้ถ่ายรูปแลนด์มาร์ค แค่นอนพักสบายในโรงแรมเก๋ๆ เห้ยยยย มันอิ่มอกอิ่มใจมากในชีวิตผมเลยนะนี่

The Best Plan Is No Plan

ทริปที่ผ่านมาส่วนใหญ่ตัวเองจะชอบแพลนทริปเที่ยวเอง แทบไม่เคยซื้อทัวร์เลย จริงๆ ผมไม่ได้ว่าการไปกับทัวร์มันไม่ดีนะ ใครอยากทำเวลา หรืออยากเก็บจุดฮิตๆ ไม่มีเวลาแพลนทริป ผมแนะนำเลยครับ แต่สำหรับผม ผมรู้สึกว่าการไปเที่ยวคือการได้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปที่ไหนก็ไป ที่ไหนไม่ชอบก็ตัด เอาเวลาไปใช้ในที่ที่เราอยากไปดีกว่า ถามว่ายากมั้ยนี่บอกเลยถ้ามีเวลามันไม่ยาก! เพราะทุกวันนี้ทุกคนรีวิวการเที่ยวละเอียดมาก แต่ประเด็นคือในวันๆ นึงของผมก็มีทำงานหลัก จ๊อบเสริม ออกกำลังกาย รีวิวทริปเก่า แพลนทริปใหม่ พอเป็นแบบนี้ปุ๊บ.. มันก็เลยมีบางช่วงที่ทริปมันติดกันไปหมด

แล้วแพลนไม่ทัน ตอนนั้นคืออยากให้วันนึงมีซัก 30 ชั่วโมง เพราะไฟลนไปหมด สุดท้ายก็แพลนออกมาเสร็จก่อนเดินทางแบบไฟไหม้ยังงั้นแหละ แต่แพลนที่ออกมาผมชอบนะ แต่คนอื่นในทริปผมไม่รู้ ผมว่ามันคือสีสัน ไม่เป๊ะเกินไป ไม่หลวมจนเกินไป สีสันหน้างาน พลาดบ้างเทบ้าง ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมเคยพลาดแล้วไปเจอสถานที่อื่นที่ผมชอบก็มีนะ อย่างแบบเคยรีวิวผับไต้หวัน 2 ผับ แม่งปิดหนีผมหมดเลย ไปได้ผับใหม่เห้ยเพลงโคตรดี!! ฟรีดริ๊ง!! (ยังงี้ได้มั้ย ได้แหละ อิ๊อิ๊) เห็นมะ ผมว่าในการเที่ยวครั้งนึง มันมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่าการที่เราไปถ่ายรูปเช็คอินแล้วจบไปนะ ในทริปๆ นึงมันจะมีอะไรเกิดขึ้นทำให้เรานึกถึงได้เสมอ

ทันตแพทย์กับการท่องเที่ยว

ไม่มีเวรหรอหมอ.. ใช่น่ะสิ ไม่มีเวร เพราะผมคือทันตแพทย์ เห้ย! เอาดีๆ ผมว่าอาชีพทันตแพทย์เป็นอาชีพในระบบสาธารณสุขที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวมาก ไม่ว่าจะในเรื่องของงบประมาณ หรือในเรื่องของเวลา ถ้าผมไปคุยกับเพื่อนหมอ หรือคนอื่นที่แทบจะโดนสาป เป็นอาชีพที่สามารถจัดการเวลาได้โคตรดี จนหลังๆ เพื่อนเริ่มไม่ว่างเที่ยวด้วย จนได้ต้องมาเที่ยวคนเดียวแล้ว แต่! พวกคุณได้ลองเที่ยวคนเดียวกันหรือยัง? แต่ก่อนผมกลัวการเที่ยวคนเดียวมากนะ เพราะเป็นคนที่ตัดสินใจไม่ค่อยได้ และคนอย่างผมนี่ติดนิสัยบ่นมาก เจอเรื่องเครียดก็ต้องหาคนบ่นไปหมด บ่นเสร็จแล้วก็หายเครียด ไอ้เพื่อนก็เครียดแทน ฮ่า แล้วเดี๋ยวไหนใครจะมาถ่ายรูปให้เราอีก เห้ยยย เที่ยวคนเดียวไม่ได้แน่ๆ เลย แต่เมื่อมันจำเป็นต้องเที่ยวคนเดียว จะว่าไปมันก็ดีอีกแบบนะ ไม่ได้แย่อย่างที่คิดเลยอยากทำอะไรก็ทำเลย ไม่ต้องรอใคร เป็นตัวเองได้มากที่สุด ยิ่งใครเวลาไปเที่ยวแล้วรู้สึกไม่เป็นตัวเอง ผมแนะนำไปลองเลยครับ.. แล้วคุณจะรักตัวเองมากขึ้น

ความปอง!!

แต่ถ้าจะให้พูดถึงความบันเทิงในทริปที่มีอีกเยอะ เพื่อนบางคนเห็นผมไปเที่ยวถึงกับว่าน่าสนุกนะ แต่ขอไม่ไปละกัน  ไม่รู้มันเป็นที่ความสะเพร่าของผม หรือว่าเป็นที่ดวง แต่ละทริปมันต้องมีความปองเข้ามา ความปองที่ว่าก็อย่างเช่น กระเป๋าตังค์หาย พาสปอร์ตหาย จองตั๋วจองที่พักผิดวัน หรือแม้กระทั่งจองตั๋วเครื่องบินแล้วดูสกุลเงินผิด หนักสุดก็หัวแตกอยู่ที่ผับเกาหลี ความวิบากกรรมเกิดได้เกือบทุกทริป

ทริปไหนไม่เกิด เพื่อนร่วมทริปแทบจะกราบขอบคุณกันเลยทีเดียว

ตอนนี้อายุ 30 กว่าแล้ว พ่อแม่ก็ยังบ่นนะ เพื่อนลงทุน สร้างบ้าน อสังหากันไปหมดแล้ว ฉันยังนั่งเข้าเว็บโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินอยู่เลย บันเทิงงงมาก แต่ถามว่าเสียดายเงินมั้ย ก็ไม่นะ.. จะไปเสียดายเงินถ้าไม่ได้ตั๋วโปรมากกว่า! คิดแล้วโมโหเลยล่ะ สรุปก็คือยังไม่ได้มีความคิดที่จะพักแม้แต่อย่างใด อยากไปให้ได้เท่าที่สังขารยังไหวอยู่ แต่ถ้าถามว่าลดมั้ย ก็คงลดบ้าง แต่คำว่าบ้าง =เที่ยวทุกเดือนเลยนะ พออายุเยอะขึ้นก็มีคิดที่จะเริ่มลงทุนอะไรบ้างแล้วเหมือนกัน เพราะไม่ได้อยากพักเที่ยว แต่อยากรวย และอยากว่าง TT ทุกอย่างคือเพื่อมาตอบโจทย์การเที่ยวของตัวเองล้วนๆ

แต่เดี๋ยวก่อนนน ถ้าคุณโทรมาภายใน 30 นาทีนี้ เอ้ย ไม่ใช่ ! จะบอกว่ามันมีอีกสาเหตุที่ตอนนี้มันยังเลิกเที่ยวไม่ได้หรอกนะ เพราะมันยังมีบางประเทศที่อยู่ใน Bucket list แล้วยังไม่ได้ไปเลย เกิดจากการที่เป็นคนปฏิเสธคนไม่ค่อยเป็น ช่วงแรกๆ เวลาใครชวนไปไหน ก็ตอบตกลงกับเค้าไปซะหมดจนประเทศที่ตัวเองอยากไป ก็ยังดองเก็บไว้อยู่ยังงั้น ตอนนี้ถึงคราวที่ผมจะต้องไล่เก็บลิสต์ประเทศที่ผมอยากไปซักที ไม่งั้นมันจะเก็บมาคิดวนอยู่ในหัวเรื่อยๆ เลย บางทีการไล่ทำตามความฝันที่ยังเหลืออยู่ก็เป็นจุดสำคัญในการดำเนินชีวิตต่อไปให้ดีขึ้นในทุกๆวัน และวันนึงเมื่อผมเข้าไป

ใกล้ความฝันที่ตั้งไว้ ถึงตอนนั้นบางทีผมอาจจะหยุดแล้วหันไปฝันเรื่องใหม่ๆ ก็เป็นได้ เพราะบอกเลยว่าผมเป็นคนไม่เคยหยุดอยู่กับที่ ฮ่าๆ แต่มันก็ไม่ได้ผิดอะไรหนิ เพราะที่ผ่านมาเราก็ได้ประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้มาแล้ว

สุดท้ายนี้ผมก็ไม่ได้มีความสามารถถึงขนาดบอกได้ว่า “คนเราเกิดมามีชีวิตเดียว ไม่เที่ยวตอนนี้แล้วจะเที่ยวตอนไหน” ผมรู้ ทุกคนรู้ โควทนี้หลายๆ คนอาจจะรู้ว่ามันจะทำได้จริงก็ต่อเมื่อคุณรวย คุณเป็นอิสระทางการเงินแบบนั้นไปแล้ว แต่สำหรับผมขอแนะนำว่าจัดระเบียบในชีวิตของตัวเองให้ได้มากที่สุดแล้วกันครับ ทั้งการทำงานและการเที่ยว เพราะ

ชีวิตไม่ได้มีแต่งาน แต่งานก็หาเงินให้เราได้ไปเที่ยว ชีวิตไม่ได้มีแต่เที่ยว แต่การเที่ยวก็ทำให้เราชาร์จพลังกลับมาทำงานได้

นั้นแหละคือความ Balance ของ  Work Hard, Play Hard ในแบบฉบับของผม ในบางครั้งการเที่ยว 1 ครั้งก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะเสมอไป แค่ตั้งงบประมาณกับเป้าหมายไว้ แล้วลองวางแผนให้ทั้งสองอย่างมันลงตัว อาจไม่ต้องกินหรูอยู่สบาย บางทีเราอาจได้ประสบการณ์ใหม่ๆ กลับมา ลองวางแผนเที่ยวเอง ไปในที่ที่ตัวเองฝันไว้ดูสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าไม่ได้ยากที่จะก้าวเท้าออกจากบ้าน

“คนเราเกิดมา มีชีวิตเดียว  ไม่เที่ยวตอนนี้แล้วจะเที่ยวตอนไหน”

วาทิศ เดชพงษ์ ทันตแพทย์ 
และเจ้าของเพจ ไม่มี เวรหรอหมอ : Zero Shift Doctors

Share.