เจ้าพระยารามราฆพเป็นบุคคลหนึ่งที่พระยาภิรมย์ภักดีรู้จักดีมากคนหนึ่ง อาจจะสืบเนื่องมาจากการอยู่ในละแวกกลุ่มเจ้านาย โดยเฉพาะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่สำคัญสุดคือ โรงเบียร์แห่งแรกของไทยนั้น
ตั้งอยู่บนที่ดินที่เดิมเป็นของเจ้าพระยารามราฆพ ท่านเจ้าคุณได้ติดต่อขอเช่าที่ เดิมที่นี่เป็นโรงสีไฟเก่า ตั้งอยู่ที่ตำบลบางกระบือ ขณะนั้นพระยาอนิรุธเทวา (ม.ล.ฟื้น พึ่งบุญ) น้องชายของท่านเจ้าคุณรามฯ กำลังร่างสัญญาจะให้เจ๊สัวจีนเสงเช่าโรงสีอยู่ แต่โดยที่ที่ดินผืนนี้เหมาะสมกับการตั้งโรงเบียร์มาก ทั้งมีน้ำบาดาลที่ถูกลักษณะของการผลิตเบียร์บวกกับอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาเหมาะกับการขนส่ง แถมยังอยู่ใกล้กรุงเพราะในตอนนั้นเขตกรุงเทพฯ น่าจะสิ้นสุดที่แถววังศุโขทัย จึงได้ไปขอร้องท่านเจ้าคุณรามฯ เมื่อครั้นไปเยือนอังกฤษตอนที่ไปซื้อเครื่องจักรโรงเบียร์เมื่อปี 2476 ได้ตกลงเช่าที่ดินทั้งหมดเกือบ 10 ไร่ ทำสัญญาเช่า 15 ปี และ 2 ปีต่อมา พระยาภิรมย์ฯ ได้เจรจาขอซื้อที่ดิน โอนกรรมสิทธิ์เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2478 เสียเงินไป 55,000 บาท ที่ดินเดิมนี้คือส่วนที่เป็นโรงงานแรกตรงท่าน้ำ 1 ในขณะนี้ และบริษัทก็ได้ซื้อที่ขยายกิจการต่อในปีต่อๆ มาจนขยายเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ม.ล.เฟื้อ พึ่งบุญ เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2433 เป็นบุตรของพระยาประสิทธิ์ศุภการ (ม.ร.ว.ละม้าย พึ่งบุญ) กับพระนมทัด (พระนมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) สืบเชื้อสายตรงจากรัชกาลที่ 1 โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าไกรสรกรมหลวงรักษ์รณเรศ ภายหลังถูกถอนพระราชอิสริยยศเป็นหม่อมไกรสร และถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2391 รวมพระชันษา 56 ปี และเป็นพระราชวงศ์องค์สุดท้ายที่ถูกสำเร็จโทษด้วยวิธีนี้ (ด้วยเหตุมีสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับพวกชายโขนละคร)
เจ้าพระยารามราฆพเป็นเจ้าพระยาที่ได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าพระยาที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ตอนที่ท่านอายุเพียง 31 ปี หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนวัดบพิตรพิมุขและโรงเรียนข้าราชการพลเรือน (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เมื่อ 2448 ตอนอายุ 15 ปี และได้ถวายตัวเข้ารับราชการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธสยามมกุฎราชกุมาร (รัชกาลที่ 6) ตั้งแต่ปี 2451 หรือตอนอายุ 18 ปีเป็นต้นมา
[อ่านต่อได้ใน Singha Magazine: ฉบับที่ 1/2015 กุมภาพันธ์ 2558]
