ภาพวาดโดยคุณนารี สมรัตนกุล
ทำไมฉันถึงไปเมืองซาร์หรือรัสเซียน่ะหรือ เพราะรัสเซียเป็นดินแดนสองทวีป คือ เอเชียและยุโรป อีกทั้งคนไทยไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วยหากไปอยู่ไม่เกิน 30 วัน ไปฤดูใบไม้ร่วงเดือนตุลาคมนี่จะเหมาะที่สุด ไม่มีฝน ไม่มีหิมะ เดินได้เรื่อย ๆ
ซาร์แลนด์ หรือดินแดนของพระเจ้าซาร์ที่ฉันจะเล่าให้ฟัง คือ มอสโคว หรือ MockBa ซึ่งเป็นเมืองหลวงตั้งแต่สมัยพระเจ้าซาร์ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เราไปเริ่มกันที่พระราชวังเครมลินกันเลย พระราชวังนี้พระเจ้าซาร์ Ivan III เคยทรงพระดำริจะให้มอสโควเป็น กรุงโรมแห่งที่สาม จึงมีการก่อสร้างโบสถ์ในพระราชวังนี้ถึงสามแห่ง และเปลี่ยนกำแพงเป็นหินสีแดง แทนหินสีขาว
ในเครมลินนี้ เราจะไปชม Armoury Chamber ที่มีชุดเครื่องทองของกำนัลจากประเทศต่างๆ รวมถึงมีตู้ที่มีไข่ฟาแบร์เซ (Faberge Egg) ที่นำทอง อัญมณีมีค่า มาทำให้เป็นรูปไข่ไก่ (เหมือนไข่ในเทศกาลอีสเตอร์) อีกทั้งยังมีชุดฉลองพระองค์ รถม้า บัลลังก์ มงกุฎของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง พระจักรพรรดินี Catherine II the Great ก็มีให้ชมแบบตื่นตา ตระการใจเช่นกัน
นอกจากนี้ ควรแวะไปชมห้องเพชร หรือ Diamond Fund ที่ห้ามถ่ายรูป (แหม เราเลยไม่มีรูปมาอวดคนอ่านเลย) เป็นห้องที่เก็บกรุมหาสมบัติของรัสเซีย เช่น มงกุฎ สร้อยคอ ต่างหู จี้ และอื่นๆ
ต่อมาเราไปเดินชมวิหารทั้งสามในพระราชวังนี้กันดีกว่า วิหารทั้งสามนี้มาจากการนำศิลปะของไบเซนไทน์ กรีก อิตาเลียนมาผสมแต่ละวิหาร ยอดของวิหารจะเป็นทรงหัวหอม วิหารอัสสัมชัญ ที่มีห้าโดมเป็นต้นแบบให้โบสถ์อื่นๆ โดยวิหารนี้ใช้ประกอบพิธีขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าซาร์และเป็นที่ฝังศพของสังฆราชนิกายรัสเซียนออร์โธดอกซ์ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ ในวิหารนี้มีรูปเขียนสีเฟรสโกให้ดูเพลินๆ อีกด้วย และเดินมาถึงวิหาร Annunciation เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีรูปเขียนสีและมีบานประตูชั้นในที่ทำจากแผ่นทองแดง ซึ่งเป็นเทคนิคที่หายาก ส่วนวิหาร Archangel สร้างอุทิศให้กับอัครเทวทูต Michael ที่เป็นเทพผู้พิทักษ์มอสโคว เมื่อชมวิหารเสร็จ เดินไปด้านหลังจะเห็นปืนใหญ่ ค.ศ. 1586 ที่ทำจากทองสัมฤทธิ์มีรูปพระเจ้าซาร์ทรงควบม้า และใกล้กันจะเห็นระฆังพระเจ้าซาร์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระฆังนี้หนัก 202 ตัน ซึ่งสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1730 ขณะที่รอให้ระฆังเย็น เกิดไฟไหม้ในเครมลิน ระฆังที่ร้อนโดนน้ำจึงแตกออกดังที่เห็น (สุภาษิตไทยลอยมาเลย โจรปล้นสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว)
เมื่อเดินออกมาจะเห็นจัตุรัสแดง มีเรื่องเล่าว่า ทั้งจัตุรัสแดงและวิหารเซน์บาซิล โดนผู้ควบคุมงาน Lazar Kaganovich เสนอให้นำโมเดลทั้งสองออกระหว่างปรับปรุงพื้นที่ แต่สตาลินกลับพูดว่า “Lazar! เอากลับมาวางไว้ที่เดิม” (เกือบไปละ!!!)
และแล้วก็จะเห็นวิหารเซนต์บาซิล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมอสโคว มีสีสันสดใส วิหารนี้สร้างในสมัย Ivan the Terrible ในปี ค.ศ. 1555 – 1561 ตามเรื่องเล่า พระเจ้าอิวานพอพระทัยในความสวยงามมาก จึงตรัสถามว่าจะสร้างแบบนี้ได้อีกไหม ช่างทูลตอบพระองค์ว่า หากพระองค์ต้องการ ช่างจะทำให้สวยกว่านี้อีก พระเจ้าซาร์ IV จึงควักลูกตาช่างออก เพื่อไม่ให้สร้างที่อื่นได้อีก (ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงได้นามว่า “อิวานจอมโหด”) ตัววิหารนี้เดิมทีเป็นสีขาว เพื่อให้เข้ากับเครมลิน แต่มีการทาสีหลากสีในศตวรรษที่ 17 จึงสะดุดตาดังเช่นปัจจุบัน
ทั้งพระราชวังเครมลิน วิหารเซนต์บาซิล และจัตุรัสแดงได้ขึ้นทะเบียนเป็น UNESCO World Heritage Site ในปี 1990 ด้วยนะ
เดินออกมาหน้าวิหาร จะเห็นรูปปั้น Minin กำลังยื่นดาบให้กับเจ้าชาย Pozharsky เพื่อขอร้องให้เจ้าชายนำทัพขับไล่โปแลนด์ พร้อมกับชี้นิ้วมาที่พระราชวังเครมลิน เหมือนจะถามว่า “ท่านจะปกป้องบ้านเมืองไหม”
และแล้วเมื่อหันขวา จะเห็นห้างกุม (Gum) ยิ่งใหญ่อลังการที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1895 (โอ้โฮ 127 ปีมาแล้ว !!!) ห้างนี้มีสามชั้น หลังคาเป็นกระจกโค้งใส (นี่มันต้นแบบ อาคารประหยัดพลังงาน ชัดๆ) สำหรับสาวๆ ที่ยัง ช้อปปิ้งไม่พอ เราไปถนนอารบัต ซึ่งเป็นถนนคนเดิน ที่ยาว 1.3 กิโลเมตรมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และศิลปินขายรูปวาดกันเลย
มารัสเซียทั้งที พลาดไม่ได้กับละครสัตว์ ซึ่งมี 2 คณะใหญ่ คือ Circus Nikulin (Old Circus) ที่เน้นการแสดงของสัตว์ กับ Bolshoi Circus (New Circus) ที่เน้นการแสดงกายกรรมกับสัตว์ ที่เลือก Bolshoi หรือ Great Moscow State Circus เพราะผู้กำกับเคยได้รับรางวัล Golden Clown จาก the International Circus Festival ซึ่งเป็นการแสดง 2 ชั่วโมงครึ่งที่ประทับใจมิรู้ลืม
สำหรับสายมู เราไปสถานีรถไฟใต้ดินกัน สถานีนี้ชื่อ Ploshchad Revolyusii เป็นสถานีอยู่ใจกลางจัตุรัสแดง ที่มีรูปปั้นอยู่ถึง 76 รูปปั้นที่เป็นเรื่องราวของประชาชนชาวรัสเซียทุกสาขา อาชีพ รูปปั้น Bronze ที่โด่งดังมาก คือ รูปปั้นทหารกับสุนัข ที่เชื่อกันว่าลูบที่จมูกสุนัขแล้วจะโชคดี คนลูบกันจนจมูกขึ้นเงาวับ (มาค่ะ เร่เข้ามาลูบบ้าง) สถานีรถไฟใต้ดินที่รัสเซียนี่สวยทุกสาย หากคุณผู้อ่านมีเวลาไปชม
… Good Bye Tsar Land …
